โรคมาลาเรีย (Malarai)
เป็นโรคที่มียุงเป็นพาหะ
แต่เป็นคนละชนิดกันกับโรคไข้เลือดออก เพราะโรคไข้เลือดออกจะมียุงลายเป็นพาหะ
แต่โรคมาลาเรียจะมี “ยุงก้นป่อง”
เป็นพาหะนำโรค สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้
ทำให้ระบาดได้ง่ายเป็นวงกว้าง
โดยผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้มักอาศัยอยู่บริเวณชายป่า ชายเขา จำนวน 400
คน พบว่ามีเชื้อเพราะยุงก้นป่องเป็นยุงที่อยู่ในป่า
ทำให้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวมีความเสี่ยงมากกว่าคนพื้นที่อื่นๆ
ในการเกิดโรค
ล่าสุดยังพบว่าเมื่อทำการเจาะเลือดกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณายป่าชายเขาจำนวน 400
คน พบว่ามีเชื้อมาลาเรียอยู่ถึง 200 คน
เรียกว่าครึ่งต่อครึ่งกันเลยทีเดียว จึงเป็นปัญหาที่ต้องรีบจัดการให้เหมาะสม
สำหรับวิธีป้องกันคือการพ่นยาในพื้นที่
แต่อุปสรรคคือชาวบ้านมักไม่ยอมเพราะกลัวว่าจะมีปัญหากับนกที่ตัวเองเลี้ยงไว้ทำให้ยากแก่การป้องกัน
ลักษณะทางคลินิก
ระยะฟักตัวโดยทั่วไปใช้เวลา
10-14 วันคือระยะเวลาตั้งแต่ถูกยุงกัดจนกระทั่งเกิดอาการของมาลาเรีย
ดังนั้นหากเกิดไข้หลังจากเข้าป่าในสัปดาห์แรกไม่น่าจะเกิดจากเชื้อมาลาเรียนอกจากนั้นไข้ที่เกิดจากเชื้อ
พี.ฟาลซิปารัมจะเกิดทุก 2 วัน ส่วนไข้ที่เกิดจากเชื้อ
พี.ไวแวกซ์จะเกิดทุก 3 วัน
อาการและอาการแสดง
ในระยะ 2-3 วันแรก ไข้ยังจับไม่เป็นเวลา
ประมาณปลายสัปดาห์ที่หนึ่งจะเริ่มจับไข้เป็นเวลา 2-3 วันแล้วแต่ชนิดของเชื้อ
อาการของไข้จะมี 3 รยะ คือ
· ระยะหนาวสั่นและเกร็ง ขณะนี้อุณหภูมิของร่างกายจะเพิ่มขึ้น
ชีพขจรจะเร็วและเบา แรงดันโลหิตเพิ่ม ผิวเย็นซีด อาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
และปัสสาวะบ่อยรยะนี้อาจจะนาน 15-60 นาที
ระยะร้อน อุณหภูมิร่างกายจะสูง ชีพขจรแรง แรงดันโลหิตจะสูง ลมหายใจร้อนผิวจะแดง กระหายน้ำ มีอาการกระสับกระส่าย บางคนไม่ค่อยรู้ตัว ช่วงนี้ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
ระยะร้อน อุณหภูมิร่างกายจะสูง ชีพขจรแรง แรงดันโลหิตจะสูง ลมหายใจร้อนผิวจะแดง กระหายน้ำ มีอาการกระสับกระส่าย บางคนไม่ค่อยรู้ตัว ช่วงนี้ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
· ระยะเหงื่อออก ระยะนี้เหงื่อจะเริ่มออกที่ขมับก่อนแล้วจึงออกทั้งตัว
อุณหภูมิและชีพขจรจะกลับสู่ปกติ ผู้ป่วยจะเพลียและหลับไป
· -ระยะพัก คือระยะที่ไม่มีไข้ ผู้ป่วยจะสบายดี
ภาวะแทรกซ้อนของมาลาเรีย
ผู้ป่วยที่เป็นมาลาเรียชนิด
พี.ฟาลซิปารัมอาจจะมีภาวะแทรกซ้อนอย่างรุนแรง ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับระบบใดระบบหนึ่ง
หรือเกิดพร้อมกันหลายระบบก็ได้
ภาวะแทรกซ้อนมักจะเกิดในคนที่ไม่มีภูมิคุ้มกันและได้รับการรักษาไม่เพียงพอ
ภาวะแทรกซ้อนมักจะเกิดเมื่อมีการติดเชื้อมาลาเรียอย่างรุนแรง
คือเม็ดเลือดแดงมีการติดเชื้อมากกว่า 5 % และร้อยละ10ของเม็ดเลือดแดงที่มีการติดเชื้อจะมีเชื้อมาลาเรียมากกว่า
2 ตัว ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้คือ
1. ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับระบบประสาท
·
มาลาเรียขึ้นสมอง(Cerebral malaria) เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมาลาเรียและมีอาการทางสมองร่วมด้วย
มักจะเกิดในผู้ที่ติดเชื้อมาลาเรียเป็นจำนวนมากสามารถตรวจพบเซลล์ Schizoite ในการตรวจเลือด ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะมาก ไข้สูง มีบุคลิกเปลี่ยนแปลง
ซึมจนไม่รู้สึกตัว หรือชักจนหมดสติ อาจจะพบว่ามีอัมพาตครึ่งซีก
ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจจะถึงแก่ความตายได้ง่าย
หากได้รับการรักษาทันผู้ป่วยก็จะฟื้นอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่จะฟื้นใน 24-72 ชั่วโมง ถ้าเกิน 48 ชมแล้วผลมักจะไม่ดี
·
มาลาเรียขึ้นสมอง(Cerebral malaria) เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมาลาเรียและมีอาการทางสมองร่วมด้วย
มักจะเกิดในผู้ที่ติดเชื้อมาลาเรียเป็นจำนวนมากสามารถตรวจพบเซลล์ Schizoite ในการตรวจเลือด ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะมาก ไข้สูง มีบุคลิกเปลี่ยนแปลง
ซึมจนไม่รู้สึกตัว หรือชักจนหมดสติ อาจจะพบว่ามีอัมพาตครึ่งซีก
ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาจจะถึงแก่ความตายได้ง่าย
หากได้รับการรักษาทันผู้ป่วยก็จะฟื้นอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่จะฟื้นใน 24-72 ชั่วโมง ถ้าเกิน 48 ชมแล้วผลมักจะไม่ดี
2. ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับระบบหัวใจและหลอดเลือด
หรือมาลาเรียที่มีอาการช็อค
อาการนี้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมักจะร่วมกับอาการ หมดสติ หน้าซีด ตาลึก
เหงื่อออก ตัวเย็น หายใจหอบลึก ชีพขจรเร็ว แรงดันเลือดต่ ท้องร่วง อาเจียน
ภาวะนี้เกิดจากปริมาณเลือดที่ไหลเวียนลดลงอย่างทันที เนื่องจากมีภาวะเลือดข้น
3. ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดกับระบบหายใจ
ผู้ป่วยจะเกิดอาการหายใจวายทันที
มีอาการหอบเหนื่อย มีอาการเขียวการถ่ายภาพรังสีทรวงอกจะพบมีการคั่งของเลือดในปอด
นอกจากนั้นยังพบว่ามีการติดเชื้อในปอดเพิ่มขึ้น
4. ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดกับระบบทางเดินอาหาร
มีอาการตั้งแต่คลื่นไส้อาเจียนธรรมดาจนปวดมาก
ท้องเดิน อาจจะมีมากเหมือนอหิวาตกโรค
อุจาระอาจจะเป็นมูกหรือเลือดซึ่งเชื่อว่าเกิดจากผนังลำไส้ขาดออกซิเจน
อาการแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับตับ
พบได้บ่อยมาก ผู้ป่วยจะมีอาการตัวเหลืองตาเหลืองวันที่ 3-4 ของไข้
ตับโตกดเจ็บสมรรถภาพของตับจะเสื่อมลง เมื่อหายแล้วการทำงานของตับจะกลับสู่ปกติ
5. ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับระบบขับถ่ายปัสสาวะ
พบได้บ่อยในผู้ที่มีอาการมากและมีอาการช็อค
แต่บางรายก็ไม่มีอาการช็อค อาการที่สำคัญคือผู้ป่วยจะปัสสาวะน้อยลงจนถึงไม่มีเลย
ปัสสาวะน้อยกว่า 500 มล.ต่อวัน
การทำงานของไตเสื่อมลง
มีอาการของไตวายหากรักษาไม่ทันอาจจะมีโรคแทรกซ้อนทำให้เกิดน้ำท่วมปอด
6. มาลาเรียเรื้อรัง
หมายถึงการจับไข้อยู่นานหรือมีการจับไข้กลับไปกลับมาซ้ำหลายครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นการได้รับเชื้อใหม่หรือเชื้อเก่าที่ยังคงเหลือค้างอยู่ในร่างกาย
ส่วนมากมักเป็นคนที่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อมาลาเรียอยู่บ้าง อาการไข้มักจะไม่นาน
อาการอาจจะเหมือนมาลาเรียเฉียบพลันหรือไม่ก็ได้ อาจจะมีไข้แต่ไม่สูงมาก ปวดหัว
ปวดท้อง อ่อนเพลีย หายเร็วเมื่อได้รับการรักษา (ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม) คลิ๊ก Links
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น